ผมได้รู้จักกับคอมพิวเตอร์ครั้งแรกเมื่อตอนเรียน ม.สามที่โรงเรียนแห่งหนึ่งแถวชนบทในภาคใต้ของประเทศไทย
ตอนนั้นระบบปฏิบัติการก็ยังเป็นระบบหน้าต่างปีเก้าแปดอยู่เลย
ทั้งโรงเรียนของเราจะมีคอมพิวเตอร์ประมาณสิบเครื่องด้วยกัน แต่เด็กนักเรียนในห้องทั้งจะมีประมาณสามสิบกว่าคน ดังนั้นเราก็จะแบ่งกันเรียนรู้การใช้งานกันสามคนหรือสี่คนต่อหนึ่งเครื่อง
ในเทอมสองนั้นเองก็จะมีวิชาการใช้งานคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ซึ่งเป็นวิชาเลือกเสรีที่บังคับให้เราเลือกเพราะไม่มีวิชาอื่นๆเปิดสอน เราทุกคนจึงได้เลือกอย่างเสรีที่จะเรียนวิชานี้
วิชาการใช้งานคอมพิวเตอร์เบื้องต้นนับเป็นวิชาเปิดหูเปิดตาเปิดโลกกว้างให้กับเด็กชนบทอย่างพวกเราเป็นอย่างยิ่ง
ในคาบแรกก็จะมีการสอนให้ปิดเครื่องอย่างถูกต้อง ซึ่งนั้นก็ได้ทำให้เราตื่นเต้นกันพอสมควร เพราะเราเพิ่งได้ทราบว่าคอมพิวเตอร์นั้นมันได้แค่ใช้นิ้วหัวแม่เท้าเหยียดไปกดปุ่มปิดเหมือนกับตอนที่เรานอนดูโทรทัศน์ที่บ้าน แต่มันต้องอาศัยวิธีการพอสมควร
เริ่มจากเราต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า ตัวหนู (Mouse) ที่มีเท้าอยู่ใต้ท้องเป็นลูกกลิ้งของที่ทาจั๊กแร้ และต่อสายระโยงไปยังกล่องรูปทรงสี่เหลี่ยม(Case PC) ที่มีพัดลมตัวเล็กๆเป่าลมร้อนมาอย่างต่อเนื่องซึ่งเพียงพอที่จะตากถุงเท้าให้แห้งได้ และตู้นี้ก็ยังเป็นเครื่องเล่นได้อีกด้วยเพราะมันสามารถแลบลิ้นออกมาได้เพียงแค่เรากดปุ่มเล็กๆ จากนั้นเราก็สามารถดันลิ้นมันกลับไปโดยไม่ต้องกดปุ่ม เราก็ทำให้มันแลบลิ้นเข้าๆออกๆ ซึ่งมันก็เพลินไปอีกแบบ
ก่อนที่จะนอกเรื่องไปไกลขอกลับมาสู่ขั้นตอนการปิดเครื่องต่อดีกว่านะครับ จากนั้นเราจะพบว่าบนหน้าจอทีวี(Monitor) ที่ต่อสายระโยงมาจากกล่องแลบลิ้นอีกทีจะมีลูกศรตัวเล็กๆ(Cursor)โชว์อยู่ โดยเมื่อเราขยับตัวหนูนั้นลูกศรก็จะขยับไปตามมือเราไปด้วย
เราต้องใช้ความสามารถของกล้ามเนื้อแขนให้สัมพันธ์กับสายตาในการบังคับตำแหน่งลูกศรนั้น ไปยังมุมซ้ายด้านล่างของจอทีวีที่มีตัวอักษรที่เขียนว่า สตาร์ท(Start) ซึ่งแปลว่า เริ่มต้น นั่นทำให้ผมสับสนว่า ตกลงเราจะปิดมันเพื่อไปสู่จุดจบหรือว่าเราจะเริ่มต้นกันแน่เนี่ย
แต่ในทันใดนั้นเมื่อเราใช้กำลังจากข้อนิ้วชี้ที่วางอยู่บนหัวหนูและกดลงไปให้หนูร้องดัง คลิก(Click) กลับทำให้เราสัจธรรมของคำว่า สตาร์ท ซึ่งในที่นี่ก็หมายถึงการเริ่มต้นไปสู่จุดจบนั้นเอง เพราะจะมีอักษรภาษาอังกฤษโชว์คำว่า ชัตดาวน์(Shut down) อยู่เหนือคำว่าสตาร์ท อะไรมันจะลึกซึ้งขนาดนี้
นั่นยังไม่เสร็จพิธีรีตรองนะครับ
เพราะเราต้องบังคับลูกศรไปตรงคำว่า ชัตดาวน์ และต้องออกแรงข่มหัวหนูให้ร้องอีกครั้ง
มันก็ยังมีคำถามเราต่ออีกว่า ตกลงคุณจะให้ผมทำอะไรกันแน่!!!(What do you want the computer to do?)
จะปิด(Shut down) หรือจะเริ่มต้นใหม่(Restart) หรือจะยืนข้างๆ(Stand by)
ผมนี่อารมณ์ขึ้นเลยครับ นี่ตกลงเจ้าคอมพิวเตอร์ เอ็งจะกวนตีนข้าใช่มั้ยนี่
ด้วยความที่โมโห ผมก็บังคับลูกศรให้เลือกไปยังช่องว่างกลมๆหน้าคำว่าปิดจนเป็นทะลุเป็นรูสีดำ มันยังกลับถามซ้ำเพื่อยียวนอารมณ์ผมอีกรอบว่า
นี่มึง จะตกลง(OK) หรือจะยกเลิก(Cancel) หรือจะให้กูช่วยเหลือ(Help)อะไรมั้ย!!!
ไม่ต้องช่วยผมแล้วครับ แค่นี้ผมก็ทราบซึ้งพอแล้ว ผมตกลงปิดครับ แล้วก็กดหัวหนูไปอีกครั้ง จนหนูหัวจวนจะยุบอยู่แล้ว
สุดท้าย เจ้าคอมพิวเตอร์ ก็ยอมจากพวกเราไปแถมส่งเสียงเย้าแหย่เหมือนหัวเราะเยาะเย้ยอีกหนึ่งครั้ง ราวกับจะบอกพวกเราว่า ถ้าคิดจะเล่นกับข้านะมันไม่ง่ายนะเว้ย
วันนั้นพวกเราทุกได้ผลัดกันเรียนรู้กันปิด เครื่องคอมพิวเตอร์ คนละสองถึงสามรอบ
นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ครั้งแรก
นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ครั้งแรก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น