1. เพลงในห้าง
เดินเข้าห้างปุ๊บ โสตประสาทท่านจะสั่นคลอนไปกับเสียงเพลงนี้
"วันนี้ เป็นวันสงกรานต์หนุ่มสาวชาวบ้านเบิกบานจิตใจจริงเอยตอนเช้าทำบุญ ทำบุญตักบาตรทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขันกันเอยเข้าวัดแต่งตัว แต่งตัวสวยสะไปสรงน้ำพระ ณ วันสงกรานต์กันเอย
ตอนบ่ายเราเริ่มเฮฮาเล่นมอญซ่อนผ้าเล่นซะบ้ากันเอยทำบุญทำทานสนุกสนานกันแล้วขอเชิญน้องแก้วรำวงกันเอย.."
จากที่ข้าพเจ้าไปเดินมาหลายห้าง ขอยอมรับว่าทุกห้างเปิดเหมือนกันหมด
เปิดกันตั้งแต่ห้างเริ่มเปิด ยันห้างปิด วนไปเวียนมานับพันรอบ
คาดว่าแม่ค้าจนกระทั่งลุงยามในห้างทุกคนต้องร้องได้
หากไป check billboard จะพบได้เลยว่าติดชาร์ตอันดับ1 แน่นอน!!!!
2.รถในกรุงเทพโครตโล่ง
ถนนบางเส้นโล่งจนน่าใจหายนึกว่าใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดกันเลยทีเดียว
รถโล่งกันจนทางด่วนบางเส้นเปิดให้วิ่งฟรี เพราะเก็บตังค์ไปไม่คุ้มค่าแรงคนเก็บ
โล่งจนอ้างไม่ได้ว่ามาทำงานสายเพราะรถติด
บางทีโล่งจนกุนั่งสองแถวหรือรถรับจ้างแล้วไม่มีปราการป้องกัน เป็นเป้านิ่งให้ข้างทางสาดน้ำโดนกุ 100 %%% แบบไม่พลาดเป้า
ขอบคุณครับที่รถโล่ง!!!
3.เพลงแดนซ์
เปิดกันเกือบทุกบ้าน แดนซ์กัน มันส์กันกระจาย นับว่าเข้ากับประเพณีสงกรานต์มาก
สาวแก่ สาวแท้ หนุ่มเทียม เต้นกันเอวแทบหลุด
คงมีที่มาจากสมัยบรรพกาล ที่แม่นางสงกรานต์เดินผ่านทุ่งนาแล้วเทวดาเปิดเพลงแดนซ์ระหว่างทางล่ะม้าง ถุย!!!
เนื้อเพลงไม่มีอะไรมาก จะร้องประมาณว่า "ลา ลา ล้า หล่า ลา ลุบ ๆๆๆๆๆๆๆ" แต่ดนตรีนี้เปิดที่ปากซอยได้ยินไปถึงท้ายซอย ถึงขั้นนั่งขี้ในห้องน้ำ ขี้ในชักโครกยังกระเด่้งกระดอนตามจังหวะเพลงเลย
นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกันด้วย บ้านไหนยิ่งเปิดดังบ้านนั้นจะชนะ
ยิ่งถ้าเป็นบ้านที่่อยู่ใกล้ห้างนะ คงกลายเป็นวงประสานเสียง
"วันนี้ เป็นวันสงกรานต์ ลา ลา ล้า หล่า ลา ลุบ ๆๆๆๆๆๆๆ
หนุ่มสาวชาวบ้าน ล้า หล่า ลา ลุบ ๆๆๆๆๆๆๆ เบิกบานจิตใจจริงเอย "
4.การเดินทางกลับต่างจังหวัดลำบากมาก
ปกติสงกรานต์จะหยุดยาวกันอยุ่แล้ว อย่างน้อยก็ 4-5 วัน แต่บางคนเทคนิคในการลาแพรวพราวเพิ่มวันลาได้อีกครับ เช่น ลาเพิ่มอีกสองวันจะได้หยุดเสาร์ อาทิตย์เพิ่มด้วยรวมเป็น 7-8 วัน บางคนแพรวพราวกว่านั้นเล่นลากันตั้งแต่หยุดยาววันจักรีควบสงกรานต์เลยหยุดกันไปสองอาทิตย์เลย กลับมาเจ้านายจำไม่ได้แล้วว่าลูกน้องคนนี้ชื่ออะไร โต๊ะทำงานนั่งตรงไหนให้คนนั่งอื่นแทนไปแล้ว 555
แต่ถึงลากันได้เยอะก็มีเรื่องที่ทำให้ลำบากใจเหมือนกัน นั้นคือ จะกลับบ้านโดยวิธีไหน แต่ละวิธีก็ปวดหัวกันมิใช่น้อยกว่าจะได้เดินทางถึงจุดหมายอย่างสวัสดิภาพ ผมขอสรุปแต่ละวิธีดังนี้
เครื่องบิน
เป็นการเดินทางที่เหมาะสำหรับคนมีเงินสักหน่อย ใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างเร็ว พบว่าจากกรุงเทพไปเชียงใหม่แค่หนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว แต่อย่าลืมบวกเวลาเพิ่มต่อไปนี้ด้วยนะครับ เวลาที่ต้องนั่งรถไปยังสนามบินประมาณชั่วโมงครึ่ง เวลาที่ต้อง check in และรอเครื่องออกอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง เวลาที่ต้องรอโหลดของและออกจากสนามบินอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เวลาที่ต้องออกจากสนามบินเดินทางต่อไปยังบ้านประมาณหนึ่งชั่วโมง รวมเวลาเดินทางทั้งหมดแล้วประมาณห้าชั่วโมง ยังถือว่าเร็ว อิอิ!!! เพราะตั๋วกุแพงมากกกกกกกกก (ตั๋วเดินทางโดยเครื่องบินในช่วงเทศกาลนับว่าเป็นตั๋วพิเศษครับ เพราะราคาแพงเป็นพิเศษ)
รถส่วนตัว
เป็นการเดินทางที่สะดวกอีกเส้นทางหนึ่งครับ ระหว่างทางก็ได้ทำบุญบริจาคตลอดทางยิ่งไม่มีใบขับขี่อาจจะได้บุญจากการบริจาคเยอะหน่อย อิอิ นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีเวลาทำจิตใจให้สงบเพราะรถที่ติดจนแทบจะเต่าเดินแซงได้ หากเราใช้เวลานั้นในการนั่งสมาธิอาจจะบรรลุญาณชั้นสูงได้ ดังนั้นการเดินทางกับรถส่วนตัวจึงเหมาะสำหรับคนสายธรรมะจริงๆ
เป็นการเดินทางที่สะดวกอีกเส้นทางหนึ่งครับ ระหว่างทางก็ได้ทำบุญบริจาคตลอดทางยิ่งไม่มีใบขับขี่อาจจะได้บุญจากการบริจาคเยอะหน่อย อิอิ นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีเวลาทำจิตใจให้สงบเพราะรถที่ติดจนแทบจะเต่าเดินแซงได้ หากเราใช้เวลานั้นในการนั่งสมาธิอาจจะบรรลุญาณชั้นสูงได้ ดังนั้นการเดินทางกับรถส่วนตัวจึงเหมาะสำหรับคนสายธรรมะจริงๆ
รถไฟ
ตามสโลแกนเลยครับ "ปลอดภัยและใช้เวลาเดินทางคุ้มค่าตั๋ว" อันนี้ต้องขอบคุณรถไฟนะครับที่เค้าแถมเวลาเดินทางให้
ถึงแม้ว่าการเดินทางโดยรถไฟจะประหยัดและปลอดภัยสุดก็ตามแต่มีข้อควรระวังไว้อย่างหนึ่งนะครับ ว่ามันเต็มเร็วมาก เพราะปกติรถไฟจะเปิดให้จองตั๋วก่อนเดินทางจริงได้ประมาณสองเดือน ผมเคยแล้วครับครั้งนึงจะกลับรถไฟเลยนับว่าที่จะจองล่วงหน้าสองเดือนพอดี สุดท้ายเต็มครับ เพราะผมโทรไปช่วงบ่าย ใครจะไปรู้ว่ามันเต็มตั้งแต่ตอนเช้า หรือผมลืมคิดไปว่าคนไทยส่วนใหญ่ชอบของแถม 555
ตามสโลแกนเลยครับ "ปลอดภัยและใช้เวลาเดินทางคุ้มค่าตั๋ว" อันนี้ต้องขอบคุณรถไฟนะครับที่เค้าแถมเวลาเดินทางให้
ถึงแม้ว่าการเดินทางโดยรถไฟจะประหยัดและปลอดภัยสุดก็ตามแต่มีข้อควรระวังไว้อย่างหนึ่งนะครับ ว่ามันเต็มเร็วมาก เพราะปกติรถไฟจะเปิดให้จองตั๋วก่อนเดินทางจริงได้ประมาณสองเดือน ผมเคยแล้วครับครั้งนึงจะกลับรถไฟเลยนับว่าที่จะจองล่วงหน้าสองเดือนพอดี สุดท้ายเต็มครับ เพราะผมโทรไปช่วงบ่าย ใครจะไปรู้ว่ามันเต็มตั้งแต่ตอนเช้า หรือผมลืมคิดไปว่าคนไทยส่วนใหญ่ชอบของแถม 555
รถทัวร์
เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางนึงครับ เพราะปกติช่วงเทศกาลจะมีการจัดรถทัวร์เสริมให้ ซึ่งนับว่าดีมากเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนได้กลับบ้านกันมากขึ้น บางทีเสริมกันจนกลับบ้านผิดจังหวัดก็มี เพราะรถเสริมนั้นบางทีป้ายที่ติดที่ข้างรถว่าไปจังหวัดไหนอาจไม่ใช่ไปจังหวัดนั้น เช่น ข้างรถเขียนว่า กรุงเทพ - เชียงใหม่ ไอ้เราก็จะกลับเชียงใหม่ซื้อตั๋วมาแล้วขึ้นนั่งมันเลย ตื่นมาอีกทีอาจถูกส่งไปขายที่แม่สอดแล้วก็ได้ เพราะมันมีป้ายคำว่ารถเสริมแม่สอดขนาดเท่ากระดาษ A4 ที่ต้องใช้แว่นขยายในการมองถึงจะเห็นติดอยู่หน้ารถ เพราะฉะนั้นต้องรอฟังประกาศและเช็คกับเจ้าหน้าที่ให้ดีๆก่อนออกเดินทาง และอีกอย่างการเดินทางโดยรถทัวร์เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบท้าท้ายในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะก่อนออกเดินทางมักจะได้ยินข่าวทัวร์พลิก ทัวร์คว่ำอยู่บ่อยๆ บางทีแม่ม!!!! เปิดอยู่บนจอหน้าที่นั่งที่กุนั่งบนรถทัวร์ มันยิ่งเพิ่มความเสียวในชีวิตให้อีกเป็นสิบเท่า!!!
เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางนึงครับ เพราะปกติช่วงเทศกาลจะมีการจัดรถทัวร์เสริมให้ ซึ่งนับว่าดีมากเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนได้กลับบ้านกันมากขึ้น บางทีเสริมกันจนกลับบ้านผิดจังหวัดก็มี เพราะรถเสริมนั้นบางทีป้ายที่ติดที่ข้างรถว่าไปจังหวัดไหนอาจไม่ใช่ไปจังหวัดนั้น เช่น ข้างรถเขียนว่า กรุงเทพ - เชียงใหม่ ไอ้เราก็จะกลับเชียงใหม่ซื้อตั๋วมาแล้วขึ้นนั่งมันเลย ตื่นมาอีกทีอาจถูกส่งไปขายที่แม่สอดแล้วก็ได้ เพราะมันมีป้ายคำว่ารถเสริมแม่สอดขนาดเท่ากระดาษ A4 ที่ต้องใช้แว่นขยายในการมองถึงจะเห็นติดอยู่หน้ารถ เพราะฉะนั้นต้องรอฟังประกาศและเช็คกับเจ้าหน้าที่ให้ดีๆก่อนออกเดินทาง และอีกอย่างการเดินทางโดยรถทัวร์เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบท้าท้ายในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะก่อนออกเดินทางมักจะได้ยินข่าวทัวร์พลิก ทัวร์คว่ำอยู่บ่อยๆ บางทีแม่ม!!!! เปิดอยู่บนจอหน้าที่นั่งที่กุนั่งบนรถทัวร์ มันยิ่งเพิ่มความเสียวในชีวิตให้อีกเป็นสิบเท่า!!!
ยังมีอีกนะครับ
ผมขอมาเล่าต่อใน สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็นในวันสงกรานต์ ตอนที่ 2 ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น